#10 : อยากขายดีขึ้นมากกว่านี้มั้ย? เริ่มต้นได้ที่ความรู้ 4 ข้อนี้

0
11645
views
#10 : อยากขายดีขึ้นมากกว่านี้มั้ย? เริ่มต้นได้ที่ความรู้ 4 ข้อนี้

แชร์สิ่งดีๆ ไว้เรียนรู้ต่อ


ฟังบทความพูดได้ ที่นี่ค่ะ 

พัฒนาทักษะการขายแค่วันละนิดวันละหน่อย ส่งผลต่อยอดขายที่เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาล
หลักการสำคัญที่เรียกว่า “The Winning Edge” ของ Brian Tracy
ชายผู้เริ่มต้นจากอาชีพขายแรงงาน สู่มหาเศรษฐีผู้เป็นแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลก

.

ความสำเร็จในชีวิตของคุณ ทั้งด้านการงาน การเงิน และครอบครัว คือ ผลลัพธ์จากความสามารถใน “การขาย” ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าปัจจัยอื่นๆ

รายได้ที่มากขึ้น โอกาสที่มากขึ้น ขึ้นอยู่กับ “การขาย” คุณจึงต้องเก่งเรื่องนี้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

.

ในทุกๆ ธุรกิจ ทำไมจึงมีคนที่ขายดี และ คนที่ขายไม่ดี?

เป็นเพราะลูกค้าจำกัดหรือเปล่า -ไม่ใช่-

เป็นเพราะโอกาสถูกผูกขาดโดยคนไม่กี่คนใช่มั้ย -ก็ไม่ใช่-

.

ในความเป็นจริง มีลูกค้าเยอะมากนับไม่ถ้วน และ มีโอกาสอยู่มากมายทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น

แต่เป็นเพราะนักขายที่เก่งเข้าใจหัวใจของการขาย จึงเข้าถึงหัวใจของลูกค้าได้

ถ้าคุณต้องการพัฒนาตัวเองให้เป็นสุดยอดนักขาย คุณต้อง เรียนรู้ พัฒนา ให้มากขึ้น และสิ่งที่ดี คือ การเป็นสุดยอดนักขาย คือ ทักษะที่เรียนรู้และฝึกฝนได้ 

.

คนทุกคนจะเป็นไปตามที่ตัวเองคิด
เมื่อคุณคิดสิ่งที่ต้องการซ้ำไปซ้ำมา คิดถึงสิ่งที่ต้องการมี คิดถึงสิ่งที่ต้องการเป็น
แล้วคุณจะเป็นคนที่กำหนดอนาคต เนรมิตทุกอย่างให้เกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง

.

ผลการวิจัย โดย Dr. Martin Seligman เค้าได้สำรวจสุดยอดนักขาย 350,000 คนในสหรัฐอเมริกา ว่าวันๆ พวกเค้าคิดอะไรกัน

.

คำตอบเรียบง่าย ทรงพลัง และโดนใจสุดๆ ค่ะ

"พวกเค้าคิดถึงสิ่งที่ต้องการ และคิดต่อว่าจะต้องทำยังไงจึงจะได้มันมา"

.

มันง่ายแค่นั้นเลย แค่ 1. คิดถึงสิ่งที่ต้องการ ไม่ใช่คิดถึงสิ่งที่เป็นจริงในตอนนี้ คิดถึงสิ่งแย่ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น หรือ คิดถึงเรื่องเก่าที่เลวร้ายในอดีต

และ 2.คิดต่อว่าจะต้องทำยังไงจึงจะได้มันมา นี่คือสิ่งที่แยกขาดระหว่างฝันลมๆแล้งๆ กับฝันแล้วมีแรงบันดาลใจ คือ หาทางลงมือทำค่ะ 

.

ตอนนี้คุณขายอะไรอยู่คะ?

อย่าบอกว่าไม่ได้ขายอะไร เพราะคุณกำลังขายบางสิ่งบางอย่างอยู่ ยกตัวอย่างเช่น พนักงานทำงานในบริษัท พวกเค้ากำลังขายเวลาและความสามารถที่ตอบโจทย์เจ้านายของเค้า

.

และเมื่อคุณต้องการเป็นสุดยอดนักขาย คำตอบตรงๆ ก็คือ คุณต้องคิดให้ได้  2 ข้อนั้นแบบที่สุดยอดนักขายเค้าคิดกัน

ถ้าใครได้มาขายของออนไลน์เมื่อซัก 3-4 ปีก่อน จะรู้เลยว่ามันคือสวรรค์มากๆ ลงเงิน 100 ได้กลับมา หลายพัน หรือ เป็น 10,000 คือ เรื่องปกติ

และหลังจากนั้น ก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป

ตอนนั้นเอวาขายของออนไลน์ไประยะหนึ่งแล้ว  เฟสบุคเกิดปรับระบบขึ้นมา

เกือบสองเดือนนั้น ค่าโฆษณาเพิ่ม 3 เท่า แต่ยอดขายตกลงกว่า 3 เท่า เช่นกัน พูดง่ายๆ คือ ขาดทุนนั่นเอง ไหนจะต้นทุนค่าของ ไหนจะต้นทุนค่าโฆษณา ไหนจะต้นทุนอื่นๆ อีก 

.

ท้อแท้ใจสุดๆ เลยค่ะ แต่ชีวิตก็ไม่โหดร้ายเกินไป เพราะเอวายังคงเรียนอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง

.

ถ้าคุณอ่านและฟังบทความพูดได้จากเอวามา คุณจะได้ยินเอวาย้ำตลอดเวลา เรื่อง การเรียนเพื่อพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่แค่เรื่องการขายเท่านั้น แต่พัฒนาตัวเองในเรื่องอื่นด้วย เช่น การเงิน ความสัมพันธ์ในครอบครัว และการรักษาสุขภาพด้วย

.

เอวาก็ได้รู้จักโมเดล AIDA จากการเข้าเรียนสัมมนา

โมเดล AIDA นักขายเก่งๆ ใช้กันมาอย่างแพร่หลาย เป็นเบสิคของการขายที่ทุกคนต้องรู้ แต่หลายคนพลาดไปเพราะไม่รู้เช่นกัน

#10 : อยากขายดีขึ้นมากกว่านี้มั้ย? เริ่มต้นได้ที่ความรู้ 4 ข้อนี้ .02

A = ATTENTION ทำให้คนรู้จัก

ถ้าของที่กำลังจะขายให้ลูกค้าเป็นสินค้าเดิมในตลาดใหม่

หมายถึง สินค้าเป็นที่รู้จักของคนอื่น แต่ลูกค้าของคุณยังไม่เคยรู้จัก หรือ เป็นสินค้าใหม่ในตลาดเลยสิ่งที่ควรทำที่สุด ไม่ใช่การขายค่ะ 

.

แต่เป็นการทำให้ลูกค้ารู้จักสินค้านั้น ทำได้โดยวิธีการใช้สินค้าให้ดู บอกว่าของชิ้นนี้จะช่วยให้ชีวิตของเค้าดีขึ้นยังไง

และที่สำคัญยิ่งกว่า คือ กำหนดลูกค้าเป้าหมายให้ชัดเจน กลุ่มเป้าหมายของคุณไม่ใช่คนทุกคน เพราะคนทุกคนไม่ได้ซื้อของเหมือนกัน

.

กำหนดให้แน่ใจว่าสินค้านี้ ขาย "ใคร" บอกว่าลูกค้า คือ ผู้หญิง แค่นั้นไม่เพียงพอนะคะ กว้างมากค่ะ 

ผู้หญิงอายุ 18-65 คิดไม่เหมือนกัน ใช้ของไม่เหมือนกันเลย

คุณต้องกำหนดให้ได้ว่า ผู้หญิง ที่ยังไม่แต่งงาน ทำงานประจำเป็นพนักงานบริษัท วันเสาร์อาทิตย์ชอบเดินเล่นที่ไหน สนใจเรื่องอะไร ชอบดูเพจไหน เป็นต้น

.

เมื่อคุณกำหนดแน่แล้ว ให้ลองวาดรูปออกมา

รูปที่ชัดเจน จะทำให้กำหนดกลุ่มเป้าหมายตอนที่ทำโฆษณาได้แม่นยำยิ่งขึ้นค่ะ

I = INTEREST ทำให้คนสนใจ

มีหลายสินค้าใช่มั้ยคะที่คุณรู้จักมันเป็นอย่างดี แต่เวลาให้เลือกดูจริงๆกลับไม่ได้สนใจจะเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเลย

.

เช่น เอวาชอบใช้ Huawei

มือถือยี่ห้ออื่นก็รู้จักค่ะ พวก iPhone Samsung รู้จักกันดี แถมเคยใช้ด้วย แต่ไม่ได้รู้สึกอยากได้เลย เมื่อ iPhone หรือ Samsung ออกรุ่นใหม่ๆ มา 

เวลาไปที่ศูนย์บริการ แม้ว่าจะรู้จักแต่ก็ไม่คิดจะหยิบมาดู หรือ ไม่คิดจะเปรียบเทียบอะไร เพราะชอบใช้แค่ Huawei อยู่เจ้าเดียว

ตอนนี้ Huawei ออกรุ่นใหม่มา ยอมรับตรงๆ เลยว่า อยากได้มากกกกก พอมามองของตัวเอง ก็ยังดีอยู่ เพิ่งใช้มาปีเดียวเอง ต้องระงับความอยากทุกครั้งที่เห็นเลยทีเดียวค่ะ 

.

ทำให้ลูกค้าสนใจเป็นกระบวนการที่ 2 ต่อเนื่องมาจากทำให้ลูกค้ารู้จัก

สิ่งที่มือถือ Huawei ทำก่อนที่จะของจะออกมาขาย คือ ให้นักรีวิวสายเทคโนโลยีแกะกล่องรีวิว อธิบายว่ามือถือรุ่นใหม่นี้มันดียังไง มีตรงไหนเพิ่มเติมมาบ้าง ตรงไหนไม่ค่อยโอเคบ้าง ถ่ายภาพออกมาสวยแค่ไหน หลังละลายแค่ไหน

.

นี่อาจทำให้คนที่แค่รู้จัก แต่ไม่เคยสนใจ หันมามองมือถือยี่ห้อบ้างไม่มากก็น้อยแหละค่ะ 

.

แล้วเวลาคุณอยากขายของซักตัว โพสๆๆๆ เหมือนกับว่าคนเค้ารู้จักของคุณมาเป็นอย่างดีแล้วหรือเปล่าคะ?

ลูกค้าไม่เคยรู้จักว่ามีของตัวนี้อยู่ในโลกด้วยหรอ

ลูกค้าไม่รู้ว่าทำไมฉันต้องมีของชิ้นนี้ด้วยล่ะ มันดีกว่าของที่ฉันเคยมียังไง

ลูกค้าไม่รู้ว่าเค้าจะสะดวกขึ้นยังไง จะประหยัดเวลายังไง จะสบายขึ้นยังไง จะมาช่วยแก้ปัญหาให้ฉันได้ยังไง

.

ลงเอยเป็นยังไง ก็ที่ยังขายไม่ได้ ก็เพราะแบบนี้แหละค่ะ

ยิ่งอยากขาย ยิ่งขายไม่ได้ ทุ่มเงินโฆษณาเท่าไหร่ก็แป้ก เพราะของคุณไม่ได้ทำให้ลูกค้าสนใจได้ นั่นเองค่ะ 

D = DESIRE กระตุ้นอารมณ์ให้อยากได้

คนซื้อของด้วยอารมณ์ คือ อยากได้ก่อน แล้วค่อยหาเหตุผลมารองรับ

คนซื้อของเพราะประโยชน์ที่เค้าจะได้ ไม่ได้ซื้อที่ของชิ้นนั้นดีเลิศประเสริฐยังไง

.

พูดง่ายๆคือคนซื้อเบนซ์ ไม่ได้ซื้อรถยนต์ที่พาเราเคลื่อนตัวจากจุด A ไปจุด B

.

คนซื้อแอร์เมส ไม่ได้ซื้อกระเป๋าใส่ของ เพราะถุงผ้าก็ใส่ของได้

.

คนซื้อนาฬิกาปาเต๊ะ ไม่ได้ซื้อสิ่งที่บอกเวลาได้ เพราะในมือถือก็ดูเวลาได้เหมือนกัน

.

คนเค้าจะซื้อ เค้าจะตัดสินใจจากอารมณ์เป็นหลัก ตามหลักจิตวิทยา การกระตุ้น 4 อารมณ์นี้ได้ผลที่สุด คือ

1.ความกลัว เช่น กลัวแก่ กลัวเจ็บ กลัวตาย กลัวไม่สวย กลัวอ้วน กลัวไม่รวย

.

2.ไม่อยากพลาด เช่น ลดราคาแค่วันนี้ ราคาพิเศษเฉพาะ 10 ท่านแรก อาหารร้านอร่อย ต้องไปลองทานซะหน่อยจะได้คุยกับเค้ารู้เรื่อง

.

3.ความรู้สึกผิด เช่น สมัครสมาชิกฟิตเนสเพราะรู้สึกผิดที่ไม่ได้ออกกำลังกาย หรือ ความรู้สึกผิดที่พูดโกหกภรรยา จึงต้องซื้อของกำนัลไปให้

.

4. Exclusive ความรู้สึกพิเศษ มีให้เฉพาะบุคคล เห็นกันบ่อยมากเลยใช่มั้ยคะ Limited edition มีคำนี้เมื่อไหร่ ของจะแพงขึ้นทันที ยิ่งหายากคนยิ่งอยากได้ แพงเท่าไหร่ไม่ว่าขอให้ฉันได้ครอบครองก็พอ 

คอนโดหรู คุณทราบมั้ยคะว่า ทุกคอนโด ห้องที่ขายหมดก่อนใคร ห้องที่ขายดีที่สุดคือ ห้องเพนท์เฮ้าส์ ที่อยู่ชั้นสูงสุด หรูหราที่สุด แพงที่สุด

A =ACTION ลงมือทำอะไรบางอย่าง

ที่ทำมาทั้งหมดก็หวังผลแค่ตรงนี้แหละค่ะ จะได้ปิดการขายซักทีไง

แต่กระบวนการที่จะผ่านมาตั้งแต่แรกจะกินเวลานานแค่ไหนไม่มีใครตอบได้ค่ะ

บางคนเห็นโพสปุ๊บ รู้จัก > สนใจ > อยากได้ > ซื้อทันที ก็มีค่ะ

บางคนแต่ละกระบวนการกินเวลานานเป็นเดือนเป็นปีก็มี

.

ยกตัวอย่างเอวาเป็นคนชอบซื้อคอร์สสัมมนามากๆ ค่ะ วันๆ หนึ่งมีคอร์สสัมมนาผ่านเข้ามาในฟีดข่าวเยอะแยะมากมาย บางคนเอวาเข้าไปดู Webinar ของเค้ามาแล้ว แต่ไม่ได้ซื้อ ปรากฏว่าเปิดเฟสบุคเมื่อไหร่ โฆษณาของครูคนนั้นตามมาทันทีค่ะ 

.

มีอยู่ช่วงหนึ่งเอวาอยากศึกษาวิธีลงโฆษณาเฟสบุคให้ดียิ่งขึ้น

ที่ผ่านมาก็เรียนมาเยอะแล้วแหละ แต่ยังหาใครที่สอนในจุดที่เอวายังติดอยู่ไม่ได้ เพราะตอนนี้เอวาลงโฆษณาในเฟสบุคแบบคนที่มีเว็บไซต์ มันจะไม่เหมือนกับคนที่ทำธุรกิจโดยใช้เฉพาะแฟนเพจ

.

พอมีครูคนหนึ่งยิงโฆษณามาใส่เอวา เอวาก็เข้าไปอ่านปุ๊บ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เห็นเค้าครั้งแรกตอนนั้นเลย แล้วก็โอนเงินทันที กระบวนการนี้ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที  แบบนี้ก็มีค่ะ 

.

เพราะเอวารู้จักอยู่แล้วว่า Facebook Ads คือ อะไร

เอวาสนใจอยู่แล้ว

เอวาอยากได้อยู่แล้ว

พอมีใครซักคนเข้ามาในฟีด แล้วบอกว่าเค้าจะช่วยเอวาได้ เอวาจึงไม่ลังเล ซื้อทันที

.

ดังนั้น หน้าที่ของเราที่เป็นนักขาย คือ ต้องเข้าใจว่าจะออกแบบโพสขายในแต่ละขั้นตอนได้ยังไง

ขั้นตอน A เป็นการแนะนำตัวเองเข้าสู่ตลาด ควรสอนวิธีการใช้สินค้า เล่าว่าสินค้าตัวนี้จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นยังไง เพราะอะไรจึงควรมี 

ขั้นตอน I ควรใช้ให้ดูว่าสินค้าตัวนี้จุดเด่นมีอะไร ถ้าจ้าง Influencer ในวงการนั้นๆ ได้ยิ่งดี มีใครใช้แล้วได้รับผลลัพธ์บ้าง

ขั้นตอน D กระตุ้นอารมณ์ให้เค้าอยากได้มากขึ้น เมื่อซื้อแล้วจะทำให้เค้าหายกลัวได้ยังไง ทำให้ดูหายาก ลดราคาแค่วันนี้ ที่นั่งจำนวนจำกัด ทำให้เค้าต้องรีบตัดสินใจ

ขั้นตอน A อันนี้ไม่ต้องคิดเยอะ

บอกวิธีการสั่งซื้อแบบละเอียดๆ 

.

ถ้าสนใจต้องติดต่อคุณได้ที่ไหน ขอช่องทางเดียวพอค่ะ อินบ็อกเฟสบุค หรือ ไลน์ ก็เลือกเอาซะหนึ่งอย่าง หรือ ให้เบอร์โทรเลยก็ได้ 

ขอให้ทำเป็นลิงค์สั้น คลิกปุ๊บ เพิ่มเพื่อนได้ทันที ส่งข้อความได้ทันที 

.

ถ้าทำทุกอย่างแล้วยังไม่มียอดขาย ให้ย้อนดูว่า Action ง่ายพอที่ลูกค้าจะติดต่อหาคุณหรือเปล่า

.

เหนือสิ่งอื่นใด ทุกอย่างคือการทดสอบค่ะ และไม่มีใครรู้จักธุรกิจของคุณเท่ากับตัวคุณเองอีกแล้ว

นี่ก็คือ โมเดล AIDA ที่เอวาอยากแบ่งปันในวันนี้ค่ะ

ทุกการขายและการซื้อของลูกค้า จะต้องผ่านกระบวนการนี้

ทุกครั้งที่คุณติดปัญหาในการขาย นั่นเป็นเพราะว่า ยังไม่เข้าใจหรือเรียนรู้กระบวนการนี้ยังไม่เพียงพอ

.

ทุกวันนี้เอวาก็ยังคงใช้ประโยชน์จากโมเดลนี้อยู่ และ เชื่อว่า แค่คุณเข้าใจความรู้นี้ และนำไปปรับใช้ คุณก็สามารถมีชีวิตการขายที่ดีขึ้นได้แล้วค่ะ

.

บทนี้เอวามีของขวัญให้คุณด้วยนะคะ กับ สูตรลับสร้างรายได้สไตล์คุณแม่ฟูลไทม์ ดาวน์โหลดได้ฟรีทันที แล้วเริ่มต้นสร้างเงินใต้หลังคาบ้านได้ทันทีค่ะ

eBook รายได้หลักล้านใต้หลังคาบ้านคุณ.01

eBook เรื่อง รายได้หลักล้านใต้หลังคาบ้านคุณ

เป็นเจ้าของ eBook  ฟรีทันที กดปุ่ม Free Download ได้เลยค่ะ

ขอให้ทุกๆวันของคุณ คือ วันแห่งความก้าวหน้าค่ะ

อย่าพลาดของขวัญประจำบทนี้ ดาวน์โหลดฟรี eBook : รายได้หลักล้านใต้หลังคาบ้านคุณ

รัก

เอวา จิตสุทธิภากร